• 29 มีนาคม 2024

อยากลาออกจากงานจะเริ่มต้นอย่างไร

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่วันหนึ่งคุณอาจจะรู้สึกว่า อยากลาออกจากงาน เพราะงานที่ทำอยู่นั้น มันไม่ใช่อีกต่อไป  หรือคุณมีทางเลือกในชีวิตที่ดีกว่า ความรู้สึกนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก จะว่าไป มันเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก แต่เราจะเริ่มต้นอย่างไรล่ะ? นี่คือคำถามที่พบบ่อย

จะทำอย่างไร ให้การออกของเรานั้น ไม่ส่งผลกระทบใดๆ  ต่อองค์กรเก่าที่เราจะออก และองค์กรใหม่ ที่เรากำลังจะไปทำงาน หากการลาออกจากงานนั้น ไม่ใช่การลาออกแบบแตกหัก หรือออกเพราะมีเรื่องราวใหญ่โต  เราก็ไม่จำเป็นจะต้องตัดความสัมพันธ์ กับที่ทำงานเก่าแบบขาดสะบั้น

เพราะเราไม่รู้หรอกว่า ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เราอาจจะต้องการความช่วยเหลือ จากเจ้านายเก่าก็ได้ อีกทั้งที่ทำงานใหม่ อาจจะมีการโทรมาเช็คพฤติกรรมของเรา จากที่ทำงานเก่าก็เป็นไปได้เช่นกัน การสร้างพันธมิตรในวงการ การทำงานไว้นั้นถือเป็นเรื่องฉลาด และมีประโยชน์มาก

การลาออกจากงาน

วิธีการลาออกจากงาน

ในการลาออกจากงาน ไม่ใช่ว่า อยากจะออก ก็ออกได้เลย ต้องมีการวางแผนให้ดี โดยสิ่งที่จะแนะนำ มีดังต่อไปนี้

1. หางานอื่นที่รองรับ

การลาออกอย่างมีชั้นเชิงนั้นต้องเริ่มต้นที่ “ควรจะมีงานใหม่ไว้รองรับ ก่อนตัดสินใจออกจากงาน” หากว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะเสี่ยง กับภาวะไร้งาน ไร้เงิน แบบกะทันหัน และสำหรับผู้ที่จะลาออกจากงาน เพื่อไปทำธุระกิจส่วนตัว ให้ออมเงินไว้สำหรับสถานะการณ์ที่คาดไม่ถึงด้วย

นอกจากนั้น ควรจะพิจารณาสัญญาจ้างให้ดี ว่ามีข้อปฏิบัติใดบ้างที่เราจะต้องปฏิบัติตาม  เช่น  จะต้องแจ้งล่วงหน้ากี่เดือน เป็นต้น เพื่อที่องค์กรจะได้ตระเตรียมคนมาทำงานแทนเราได้ทัน และเรานั้นอาจจะได้ถ่ายโอนงานเดิมของเรา หรือฝึกงานให้คนใหม่ได้ด้วยตัวเอง

2. กำหนดวันที่จะลาออก

เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวคุณเอง  คุณก็ควรวางแผนวันที่จะออกให้ดี  บางครั้งการลาออกที่ไร้การวางแผน อาจจะทำให้คุณพลาดเงินก้อนโตอย่างโบนัสปลายปีไปอย่างน่าเสียดาย

ฉะนั้นแล้วควรจะตรวจสอบให้ดีก่อน และเพื่อมารยาทที่ดี คุณควรจะต้องเป็นคนไปบอกเจ้านายด้วยตัวเอง  โดยควรจะบอกเหตุผลที่คุณออกด้วย แต่ควรหลีกเลี่ยงที่จะพูดในแง่ร้ายกับที่ทำงานเดิม

ซึ่งหากจะให้แนะนำคุณอาจจะให้เหตุผลว่าคุณอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศ หรืออยากจะลองท้าทายตัวเองกับงานใหม่ๆ อะไรแบบนี้ จะเป็นการถนอมน้ำใจที่ดี

3. ทิ้งเรื่องแย่ๆ แล้วไปเริ่มต้นใหม่

หากเป็นไปได้ขอให้อย่าเอาปัญหาจากที่ทำงานเก่า หรือความคิดด้านลบจากงานเก่าติดตัวเราไปด้วย ให้เริ่มต้นงานใหม่ทุกครั้งแบบ Fresh Start นั่นคือ เริ่มแบบใหม่หมด  ไม่ให้มีอะไรติดค้าง และทางที่ดีใช้โอกาสก่อนจะเริ่มงานใหม่ วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียของตัวเอง แล้วแก้ข้อเสียของตัวเอง มองโลกในแง่ดี เพื่อพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าไปได้เรื่อย ๆ  ในการเปลี่ยนงานครั้งนี้

การเปลี่ยนงานนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ไม่มีข้อห้ามว่าในชีวิตคนคนหนึ่ง จะต้องทำงานได้กี่ที่ เมื่อคุณเปลี่ยนงาน นั่นก็หมายถึงคุณจะต้องนำพาตัวเองไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนร่วมงานใหม่ๆ เจ้านายใหม่ๆ ปัญหาใหม่ๆ และอะไรใหม่ๆ อีกมากมาย

admin

Read Previous

รอยยิ้มและมองโลกในแง่ดี

Read Next

7 ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน ที่ช่วยเสริมประสิทธภาพการทำงาน