สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ Bitcoin ทั้ง 7 เรื่อง เชื่อว่าหลายคนนั้นมีความสนใจที่จะทำการลงทุนใน Crytocurrency คงจะคุ้นเคยกับคำว่า Bitcoin และสำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มทำการลงทุนในทางนี้ ก็ควรที่จะต้องมีความรู้เบื้องต้นไว้ก่อน ซึ่งในวันนี้เรามี 7 เรื่องที่ควรจะต้องรู้ก่อนที่จะซื้อบิตคอยน์ มาฝากกันครับ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ Bitcoin ทั้ง 7 เรื่อง
- Bitcoin เป็นคริปโตสกุลแรกของโลก
- ใช้บล็กเชจในการทำงาน
- ไม่มีใครทราบตัวตนที่แท้จริงของผู้สร้าง Bitcoin
- บิตคอยน์ มีจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เป็นต้นแบบขอคริปโตสกลอื่น ๆ
- ในทุก 4 ปีจะมีเหตุการสำคัญ
- เป็นคริปโตที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดเป็นอันดับ 1
สิ่งนี้คือ 7 เรื่อง ที่ว่าถ้าหากเรากจะลงทุนในการเงินสกุลนี้จะต้องศึกษาเอาไว้ เริ่มจะอยากรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่าแต่ละหัวข้อนั้นมีความสำคัญอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าทีละหัวข้อ
1.Bitcoin เป็นคริปโตสกุลแรกของโลก
บิตคอยน์ (Bitcion) ถือเป็นคริปโทเคอร์เรนซี (Crytocurrency) ที่ต้องบอกเลยว่า สกุลแรกของโลก และมีมูลค่าที่สูงที่สุดในตลาดคริปโต ซึ่งสามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและรับบริการโดยไม่ต้องผ่านพวกตัวกลาง นั่นก็คือแม้จะอยู่ที่ไหนของโลก ไม่ว่าจะประเทศไหนก็ที่จะสามารถทำธุรกรรมเรื่องการเงินข้ามประเทศได้ตลอด ขอแค่คุณมีอินเทอร์เน็ต แต่ต้องยอมรับให้ได้เรื่องค่าธรรมเนียมที่มีราคาสูงมากกว่าการทำแบบผ่านตัวกลาง
2.ใช้บล็อกเชนในการทำงาน
สำหรับบิตคอยน์นั้นจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ในการช่วยบันทึกธุรกรรมทางการเงิน โดยบล็อกเชนนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัเดเก็บข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและปลอยภัยค่อนข้างมาก ใช้หลักในการทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่จะคอยทำสำเนาของข้อมูลที่ได้บันทึก และจะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ทุกๆเครื่องที่อยุ่ในเครือข่าย ส่วนระบบเองจะมีการตรวจสอบให้ข้อมูลในทุกเครื่องตรงกันอยู่เสมอ จึงทำให้ยากต่อการที่จะปลอดแปลงข้อมูล และยังสามารถที่จะตรวจสอบได้อย่างโปร่งใสอีกด้วย
3. ไม่มีใครทราบตัวตนผู้สร้าง Bitcoin
บิตคอยน์นั้นได้ถือกำเนินมาในปี 2009 โดยผู้ที่สร้างบิตคอยน์นั้นใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโต (Satoshi Nakamoto) โดยจุดประสงค์ของเขาก็คือการที่อยากจะสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระ โดยไม่ต้องขึ้นตรงต่อทางรัฐบาลหรือองค์กรใดๆ และถึงแม้ซาโตชิ จะเป็นผู้สร้างบิตคอยน์ขึ้นมา แต่ว่าในปัจจุบันก็ยังคงไม่มีใครที่ได้ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาเลยซักคน
4. บิตคอยน์มีจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ
บิตคอย์นั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยที่กำหนดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ เพราะซาโตชิเล็งเห็นแล้วว่าหากเปิดบิตคอยน์ที่ปริมาณและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีมีการจำกัด ก็อาจจะทำให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อขึ้นมาได้ พร้อมกับทำให้มูลค่าของบิตคอยน์ลดลงและอาจหายไปจากตลาดได้ ดังนั้นการที่ได้จำกัดจำนวนจึึงเป็นช่วยตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดที่ไม่คาดฝันในอนาคต และที่สำคัญด้วยคุณสมบัติในตัวของบิตคอยน์ที่มีอยู่อย่างจำกัดจะทำให้มูลค่าของบิตคอยน์นั้นเพิ่มขึ้นได้เรื่อย ๆ ในอนาคต
5. เป็นต้นแบบให้คริปโตสกุลอื่น ๆ
ต้องขอบอกว่าบิตคอยน์นั้นถือว่าเป็นสกลุเงินในระบบดิจิทัลที่เกิดความประสบผลสำเร็จและยังกลายเป็นคริปโตที่ได้ชื่อว่ามีมูลค่าสุงที่สุดของโลก ทำให้ผุ้คนในปัจจุบันเรื่องที่จะยอมรับให้เงินดิจิทัลนั้นเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ๆ และต้องขอยอมรับว่ายังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเหรียญดิจิทัลในสกุลอื่น ๆ ตามมามากมายทั่วโลก ที่เราเรียกกันว่า Altcoin (Alternative coin) หรือจะบอกว่าเป็นสกุลเงินในทางเลือกที่มีมากขึ้นสำหรับนักลงทุนสำหรับการกระจายความเสี่ยงในเหรียญสกุลอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากบิตคอยน์
6. ทุก 4 ปีจะมีเหตุการณ์สำคัญ
“Bitcoin Halving” นั้นถือเป็นกฎเกณฑ์ที่ “ซาโตชิ นากาโมโต” ได้กำหนดเอาไว้ โดยในทุก ๆ 210,000 บล็อกที่ได้ถูกสร้างขึ้น จะมีการเกิด Halving ซึ่งนั่นหมายถึงการลดจำนวน “Block Reward” ที่ได้ให้เป็นเงินรางวัลของบรรดานักขุดลงไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งค่าตอบแทนที่ว่านั้นก็คือเหรียญบิตคอยน์ที่เกิดขึ้นมาใหม่นั่นเอง
7. เป็นคริปโตที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับที่ 1
ในทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าบิตคอยน์นั้นเป็นสกุลเงินที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุด จะเรียกว่าเจ้าแห่งคริปโตเลยก็ว่าได้ครับ และสาเหตุที่ทีให้บิตคอยน์มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 46.69% แม้อาจจะมีการลดลงจากเดิมเล็กน้อย แต่เมื่อเรานำไปเทียบกับส่วนแบงในตลาดก็ยังคงถือว่าเป็นอันดับที่ 1 อยู่เหมือนเดิม และยังคงทิ้งห่างสกุลอื่น ๆ อย่างท่วมทัน และด้วยในสาหตุนี้เองที่ทำให้บิตคอยน์เองได้ถูกจับตามองว่าเป็นกระจกที่สะท้อนในด้านภายพรวมของการตลาดคริปโตทั้งหมด และเมื่อราคาของบิตคอยน์นั้นมีการเคลื่อนไหวในทุก ๆ ครั้ง ก็จะส่งผลต่อ Altcion ที่อยูในตลาดทั้งหมด
แต่ก็ไม่ได้จะแปลว่า Altcion นั้นจะต้องผันแปรไปตาม Bitcoin เสมอไป แต่อย่าลืมว่ามีตัวแปรนั้นมีหลายอย่าง เช่นการไหลของเงิน (Fund Flow) ตลาดหุ้น กระแสโซเชียล กระแสข่าว หรือเทคโนโลยี เป็นต้น อย่างที่ทราบกันเราจำเป็นต้องทำการศึกษาและหาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมและต้องคอยติดตามข่าวตลอดเวลาด้วยนะครับ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ Bitcion ทั้ง 7 เรื่อง จะสามาถช่วยท่านได้ไม่มากก็น้อยสำหรับใครที่กำลังคิดจะลงทุนในธุรกิจนี้ครับ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
อ่านบทความอื่นๆ ของ
ความเห็นล่าสุด